ข่าว ทั่วไทย
# ช็อกทุกความรู้สึก!! เผยแล้วสาเหตุที่ต้องขับรถย้อนศร จนชนสนั่นกับรถอีกคัน ทำให้เด็กวัย 6 เดือนเสียชีวิต..!! (รายละเอียด)
September 08, 2017เผยสาเหตุที่มาคลิปสุดสลด กระบะย้อนศรประสานงารถอีกคัน จนเป็นเหตุให้เด็กวัย 6 เดือนเสียชีวิต ด้าน ภรรยาคนขับกระบะ เผย ก่อนหน้าทะเลาะใหญ่โต สามีโมโหขับรถออกไป เชื่อไม่ได้เมาเหล้าหรือป่วย ขณะที่ ตร.รออาการดีขึ้นก่อนสอบปากคำเพิ่มเติม…
จากกรณีคลิปสุดสลดรถกระบะขับย้อนศรบริเวณโค้งสวนแตงฝั่งขาเข้าอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งในคลิปปรากฏภาพรถกระบะสีเทาคันหนึ่ง ทราบชื่อผู้ขับภายหลัง คือ นายวิมล พุ่มก๋ง วัย 53 ปี ได้ขับรถย้อนศรมาในเลนขวาสุด ขณะที่กระบะอีกสีดำอีกคันที่มีผู้โดยสาร 5 คน คือ พ่อแม่ลูกและปู่กับย่า ที่ขับมาเลนขวาปกติ เมื่อถึงทางโค้งที่เกิดเหตุได้พุ่งชนประสานงาจนเต็มแรง เป็นเหตุให้เด็กวัย 6 เดือนเสียชีวิตทันที
ร.ต.อ.ประเทือง น้ำดอกไม้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เนื่องจากนายวิมลยังอยู่ในห้องไอซียู ไม่สามารถสอบปากคำได้ ทำให้ในทางคดียังไม่ได้ตั้งข้อหาเนื่องจากต้องรอการสอบปากคำจากนายวิมล ผู้ขับกระบะสีเทา ถึงสาเหตุของการขับย้อนศรว่าเป็นเจตนาหรือไม่เจตนา
ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการสอบปากคำภรรยาของนายวิมล ทราบว่า นายวิมลไม่ได้ดื่มเหล้า และไม่ได้มีอาการป่วยแต่อย่างใด รวมทั้งยังเป็นคนพื้นที่ด้วย เรื่องการไม่ชินทางไม่น่าจะเป็นไปได้ ขณะที่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับภรรยาต่อหน้าญาติพี่น้องจนทำให้นายวิมลขับรถกระบะออกมาจากบ้าน เมื่อภรรยาโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย จึงขับรถตามสามีไป
ต่อมาไม่นาน ตนได้โทรศัพท์หาสามีแต่ไม่รับสาย จึงตัดสินใจขับรถเก๋งอีกคันเพื่อไปตามสามี เพราะตนโมโหที่โทรศัพท์ไปแล้วไม่รับสายเพราะจะให้สามีรีบไปเอาปลาสลิดด้วย แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้พบรถกระบะของสามีชนกับรถกระบะอีกคัน
“เราทะเลาะกันเสียงดังปกติ และเขาเป็นคนขี้น้อยใจด้วย อาจจะอายพี่น้องที่วันนั้นทะเลาะกันเสียงดังใหญ่โต เขาเลยโมโหฟึดฟัดออกจากบ้านไป เราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไมขับรถย้อนศร และปกติไม่เคยป่วยเป็นโรคประจำตัวอะไร แต่เรื่องดื่มเหล้าเขาเลิกเหล้ามานานแล้ว และช่วงเวลาที่ขับรถออกไปนั้น ไม่น่าจะดื่มเหล้าทัน ซึ่งทางที่เขาไปเป็นบ้านญาติพี่น้องเขาด้วย เราเองก็เดาใจเขาไม่ถูกว่าทำไมถึงขับย้อนศรแบบนั้น” นางบำรุง กล่าว
นางบำรุง กล่าวถึงอาการล่าสุดของสามีว่า ตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู แต่รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังคุยไม่รู้เรื่อง แพทย์ระบุว่า สะโพกหลุด ซี่โครงหัก ตับมีเลือดออก
อย่างไรก็ตาม นางบำรุง กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ญาติไปงานศพของครอบครัวผู้เสียชีวิตพร้อมนำเงินไปช่วยงาน ยืนยันว่าไม่ได้หนี เพียงแต่ไม่มีเวลา ต้องทำงาน เลี้ยงลูก และดูแลสามีซึ่งอาการยังไม่ดี.
*ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก สมาคมร่วมใจสวนแตง สุพรรณบุรี
cr: siamnews.com
0 comments