รู้แล้วใครคือเจ้าของหวยตัวจริง!! พล.ต.อ.จักรทิพย์ ออกมาพูดเอง พบทำเป็นขบวนการ มีตำรวจเอี่ยว..!!

จากกรณีคดีลอตเตอรี่จำนวน 30 ล้านบาท ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนา...


จากกรณีคดีลอตเตอรี่จำนวน 30 ล้านบาท ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ซึ่งแจ้งความว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเป็นของตนที่ทำหายไปจนมีการฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใคร
เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงกันแน่ โดยสังคมออนไลน์ก็พยายามหาข้อพิสูจน์การตกหล่นของลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว


และก่อนหน้านั้น ทางผลตรวจดีเอ็นเอ ได้มีลายนิ้วมือของลุงจรูญอยู่ แต่ทางด้านครูนั้น บอกว่ามีหลักฐานเด็ด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้เน้นกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญกับหลักฐานที่ได้ในที่เกิดเหตุคือบริเวณตลาดเรดซิตี้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับพยานแวดล้อมที่มีน้ำหนักน้อยกว่า นอกจากนี้ ยังให้ติดตามหาพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ได้มากที่สุด อาทิ สลากฯหมายเลขที่ นายปรีชา อ้างในคลิปว่าไม่ถูกรางวัล รวมทั้งให้พิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่า ร.ต.ท.จรูญ ซื้อสลากฯจากแม่ค้าคนใดแน่ เพราะที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ร.ต.ท.จรูญ ยังยืนยันคำให้การเดิมว่าจำไม่ได้ว่าซื้อจากแม่ค้าคนไหน ซึ่งหากพิสูจน์ได้ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในคดีมากยิ่งขึ้น


รายงานแจ้งด้วยว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้นำหลักฐานต่างๆ ทั้งการสอบสวนปากคำพยานและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารวบรวม จนสรุปทิศทางได้แน่ชัดแล้วว่าใครเป็นเจ้าของสลากฯที่แท้จริง เพียงแต่รอการสอบปากพยานบางปากเพิ่มเติมประกอบสำนวนการสอบสวนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องจนทำให้สลากฯงวดนี้เกิดปัญหา ซึ่งพบว่ามีการกระทำความผิดกันเป็นขบวนการ แต่ในเบื้องต้นพบการกระทำความผิดที่ชัดเจนจำนวน 1 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 174 คือ ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะสรุปสำนวนและออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ไม่เกินสิ้นเดือนนี้

From :http://khaoron.com/archives/8641

You Might Also Like

0 comments