งามหน้า! ข้าราชการระดับสูง ระดับซี 9 ของ DSI บังคับข่มขืน แถมยังทำสิ่งนี้หลังจากข่มขืนเสร็จ..!!

ในวันที่ 15 ก.พ. 61 เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้เสียหายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ วัย 38 ปี พร...


ในวันที่ 15 ก.พ. 61 เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้เสียหายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ วัย 38 ปี พร้อมญาติ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม หลังถูกข้าราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการระดับซี 9 สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI กระทรวงยุติธรรม ข่มขืน และถ่ายคลิปแบล็กเมล์


 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวผู้เสียหายเล่าว่า เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2558 ได้พบกับข้าราชการรายดังกล่าวผ่านทาง facebook และนัดรวมตัวกันไปทำบุญกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ข้าราชการรายดังกล่าวนัดให้ออกมาพบกันก่อนล่วงหน้าที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี โดยอ้างว่า ไม่รู้จักเส้นทางที่ไปวัดดังกล่าว ในจังหวัดระยอง


 เมื่อถึงที่นัดหมาย ชายคนดังกล่าวอ้างว่าจะมอบพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ให้ แต่ต้องไปรับที่คอนโดมิเนียมที่อยู่ห่างออกไปไม่มาก เมื่อไปถึงห้อง ก็ถูกชายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนบังคับขืนใจ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอไว้ จากนั้นก็ถูกแบล็กเมล์ด้วยคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมกับถูกบังคับข่มขืน 2 ครั้ง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพัทยา และที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมทั้งมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยมีการพาไปในที่ต่างๆ พร้อมกับถ่ายรูปคู่ สร้างพยานหลักฐานขึ้นเหมือนว่าเป็นการคบหากันโดยสมัครใจแบบชู้สาว

จากนั้นก็ถูกภรรยาของข้าราชการรายดังกล่าวโทร.มาแสดงตัว พร้อมฟ้องร้องต่อศาลในข้อหาชู้สาวและทำให้เสื่อมเสีย โดยใช้พยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่ถูกสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ในการฟ้องร้อง อีกทั้งยังบังคับไม่ให้ไปให้การกับศาลในชั้นสืบพยาน จนถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในศาลชั้นต้น


ในระหว่างที่ถูกฟ้องร้องนั้น ข้าราชการคนดังกล่าวและภรรยาได้เรียกร้องเงินจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่เอาความ และไม่เผยแพร่เรื่องดังกล่าวกับครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องดังกล่าวมีการทำกันเป็นขบวนการ

ทั้งนี้ ในระหว่างเกิดเหตุดังกล่าว ตนเองได้ร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ดำเนินการกับข้าราชการคนดังกล่าว จนกระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีผลการสอบสวนออกมาในปี 2559 ว่า มีความผิดจริง แต่เป็นความผิดเล็กน้อย ถูกตัดเงินเดือนเพียงเล็กน้อย จากนั้นจึงตัดสินใจเดินทางหนีเรื่องดังกล่าวไปต่างประเทศเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ก่อนเดินทางกลับมาและเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อเอาผิดกับข้าราชการรายนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1 บก.ป.) ได้รับเรื่องไว้ และจะทำการสอบสวนผู้เสียหายอย่างละเอียด เพื่อไล่ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด หากพบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ก็จะดำเนินการกับข้าราชการรายดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

You Might Also Like

0 comments